เมนู

12. ราสิยสูตร



ว่าด้วยบรรพชิตไม่ควรเสพส่วนสุด 2 อย่าง



[ 629 ] ครั้งนั้นแล นายบ้านนามว่าราสิยะได้เข้าไปเฝ้าพระผู้มี
พระภาคเจ้าถึงที่ประทับ ถวายบังคมพระผู้มีพระภาคเจ้าแล้ว นั่ง ณ ที่ควร
ส่วนข้างหนึ่ง ครั้นแล้วได้กราบทูลพระผู้มีพระภาคเจ้าว่า ข้าแต่พระองค์
ผู้เจริญ ข้าพระองค์ได้สดับมาว่า พระสมณโคดมติเตียนตบะทั้งปวง เข้า
ไปว่า เข้าไปด่าบุคคลทั้งปวงผู้มีตบะ ทรงชีพอยู่อย่างเศร้าหมอง โดยส่วน
เดียว ดังนี้. ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ชนเหล่าใด ได้กล่าวแล้วอย่างนี้ว่า
พระสมณโคดมติเตียนตบะทั้งปวง เข้าไปว่าเข้าไปด่าบุคคลทั้งปวงผู้มีตบะ.
ทรงชีพอยู่อย่างเศร้าหมอง โดยส่วนเดียว ดังนี้ ชนเหล่านั้นเป็นอันกล่าว
ตามคำที่พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสแล้ว จะไม่กล่าวตู่พระผู้มีพระภาคเจ้าด้วย
คำอันไม่จริง และพยากรณ์ธรรมสมควรแก่ธรรม ทั้งการคล้อยตามวาทะ
ที่ถูกไรๆ จะไม่ถึงฐานะอันวิญญูชนพึงติเตียนได้แลหรือ พระเจ้าข้า.
พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า ดูก่อนนายคามณี ชนเหล่าใดได้กล่าว
แล้วอย่างนี้ว่า พระสมณโคดมติเตียนตบะทั้งปวง เข้าไปว่า เข้าไปด่าบุคคล
ทั้งปวงผู้มีตบะชีพอยู่อย่างเศร้าหมอง โดยส่วนเดียว ดังนี้ ชนเหล่านั้น
ย่อมไม่เป็นอันกล่าวตามความที่เรากล่าวแล้ว และกล่าวตู่เราด้วยคำเท็จ ไม่
เป็นจริง.

[630] ดูก่อนนายคามณี บรรพชิตไม่ควรเสพส่วนสุด 2 อย่างนี้
คือ 1. การประกอบตนให้พัวพันด้วยกามสุขในกามทั้งหลาย อันเป็น
ธรรมเลวทราม เป็นของชาวบ้าน เป็นของปุถุชน ไม่ใช่เป็นของพระ-
อริยะ ไม่ประกอบด้วยประโยชน์ 2. การประกอบตนให้เหน็ดเหนื่อย
ลำบากเปล่า ซึ่งเป็นทุกข์ ไม่ใช่เป็นของพระอริยะ ไม่ประกอบด้วย
ประโยชน์ ดูก่อนนายคามณี ข้อปฏิบัติสายกลาง ไม่เข้าไปใกล้ส่วนสุด
2 อย่างนั้น อันพระตถาคตตรัสรู้ด้วยปัญญาอันยิ่งแล้ว กระทำให้เกิดจักษุ
กระทำให้เกิดญาณ ย่อมเป็นไปเพื่อความสงบระงับ เพื่อความรู้ยิ่ง เพื่อ
ตรัสรู้ยิ่ง เพื่อนิพพาน ดูก่อนนายคามณี ก็ข้อปฏิบัติสายกลาง อันพระ-
ตถาคตตรัสรู้ด้วยปัญญาอันยิ่งแล้ว กระทำให้เกิดจักษุ กระทำให้เกิดญาณ
ย่อมเป็นไปเพื่อความสงบระงับ เพื่อความรู้ยิ่ง เพื่อตรัสรู้ เพื่อนิพพานนั้น
เป็นไฉน คืออริยมรรคอันประกอบด้วยองค์ 8 นี้แล คือ สัมมาทิฏฐิ ฯลฯ
สัมมาสมาธิ ดูก่อนนายคามณี ข้อปฏิบัติสายกลางนี้แล อันตถาคตตรัสรู้
ด้วยปัญญาอันยิ่งแล้ว การทำให้เกิดจักษุ กระทำให้เกิดญาณ ย่อมเป็นไป
เพื่อความสงบระงับ เพื่อความรู้ยิ่ง เพื่อตรัสรู้ เพื่อนิพพาน.

ว่าด้วยบุคคลผู้บริโภคกาม 3 จำพวก



[631] ดูก่อนนายคามณี บุคคลผู้บริโภคกาม 3 จำพวกนี้ มี
ปรากฏอยู่ในโลก 3 จำพวกเป็นไฉน คือ บุคคลบริโภคกามบางคนในโลกนี้
แสวงหาโภคทรัพย์โดยไม่ชอบธรรม โดยความผลุนผลัน ครั้นแล้วไม่
เลี้ยงตัวให้เป็นสุขสบาย ไม่จำแนกทาน ไม่ทำบุญ 1 ก็บุคคลผู้บริโภคกาม